ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้
รหัส ว ๓๑๑๐๑ วิชา ฟิสิกส์พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๘๐ ชั่วโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้
|
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับการเคลื่อนที่ของวัตถุในสนามโน้มถ่วง และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
|
ในสนามโน้มถ่วงจะมีแรงกระทาต่อวัตถุทาให้วัตถุมีน้าหนัก เมื่อปล่อยวัตถุ วัตถุจะตกแบบเสรี สนามโน้มถ่วงทาให้วัตถุต่าง ๆ ไม่หลุดจากโลก เช่น การโคจรของดาวเทียมรอบโลก และอาจใช้แรงโน้มถ่วงไปใช้ประโยชน์เพื่อหาแนวดิ่งของช่างก่อสร้าง
|
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคในสนามไฟฟ้า และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
|
เมื่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าอยู่ในสนามไฟฟ้าจะมีแรงกระทาต่ออนุภาคนั้น ซึ่งอาจทาให้สภาพการเคลื่อนที่ของอนุภาคเปลี่ยนไปสามารถนาสมบัตินี้ไปประยุกต์สร้างเครื่องมือบางชนิด เช่น เครื่องกาจัดฝุ่นออสซิลโลสโคป
|
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๒ ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคในสนามแม่เหล็ก และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
|
เมื่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็ก จะมีแรงกระทาต่ออนุภาคนั้น ซึ่งอาจทาให้สภาพการเคลื่อนที่ของอนุภาคเปลี่ยนไป สามารถนาสมบัติไปประยุกต์สร้างหลอดภาพโทรทัศน์
|
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๓ วิเคราะห์และอธิบายแรงนิวเคลียร์และแรงไฟฟ้าระหว่างอนุภาคในนิวเคลียส
|
เมื่อภาคในนิวเคลียส เรียกว่า นิวคลีออน นิวคลีออนประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน นิวคลีออนในนิวเคลียสยึดเหนี่ยวกันด้วยแรงนิวเคลียร์ซึ่งมีค่ามากกว่าแรงผลักทางไฟฟ้าระหว่างนิวคลีออน นิวคลีออนจึงอยู่รวมกันในนิวเคลียสได้
|
ว ๔.๒ ม.๔-๖/๑ อธิบายและทดลองความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัด เวลา ความเร็ว ความเร่งของการเคลื่อนที่ในแนวตรง
|
การเคลื่อนที่แนวตรงเป็นการเคลื่อนที่ในแนวใดแนวหนึ่ง เช่น แนวราบหรือแนวดิ่งที่มีการกระจัด ความเร็ว ความเร่ง อยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยความเร่งของวัตถุหาได้จากความเร็วที่เปลี่ยนไปในหนึ่งหน่วยเวลา
|
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้
|
ว ๔.๒ ม.๔-๖/๒ สังเกตและอธิบายการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์แบบวงกลม และ แบบฮาร์มอ-นิกอย่างงง่าย
|
การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์เป็นการเคลื่อนที่วีถีโค้งที่มีความเร็วในแนวราบคงตัวและความเร่งในแนวดิ่งคงตัว การเคลื่อนที่แบบวงกลมเป็นการเคลื่อนที่ที่มีความเร็วในแนวเส้นสัมผัสวงกลมและมีแรงในทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลาง
การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายเป็นการเคลื่อนที่กลับไปกลับมาซ้าทางเดิม เช่น การแกว่งของลูกตุ้มอย่างง่าย โดยที่มุมสูงสุดที่เบนจากแนวดิ่ง มีค่าคงตัวตลอด
|
ว ๔.๒ ม.๔-๖/๓อภิปรายผลการสืบค้นและประโยชน์ เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ แบบวงกลม และแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย
|
การเคลื่อนที่แบบโพรเนจกไทล์สามารถนาไปใช้ ประโยชน์ เช่น การเล่นเทนนิส บาสเกตบอล
การเคลื่อนที่แบบวงกลมสามารถนาไปใช้ประโยชน์ เช่น การวิ่งทางโค้งของรถยนต์ให้ปลอดภัย การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายสามารถนาไปใช้ ประโยชน์ในการสร้างนาฬิกาแบบลูกตุ้ม
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๑ ทดลองและอธิบายสมบัติของคลื่นกล และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็ว ความถี่ และความยาวคลื่น
|
คลื่นกลมีสมบัติ การสะท้อน การหกเห การแทรก สอด และการเลี้ยวเบน
อัตราเร็วความถี่และความยาวคลื่นมีความสัมพันธ์ ดังนี้
อัตราเร็ว = ความถี่ ความยาวคลื่น
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๒ อธิบายการเกิดคลื่นเสียงบีตส์ของ เสียง ความเข้มเสียงระดับความเข้มเสียง การได้ยิน เสียง คุณภาพเสียง และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
|
คลื่นเสียงเกิดจากการสั่นของแหล่งกาเนิดเสียง
บีตส์ของเสียงเกิดจากคลื่นเสียงจากแหล่งกาเนิดสอง แหล่งที่มีความถี่ต่างกันเล็กน้อยมารวมกัน ทาให้ได้ยิน เสียงดัง ค่อยเป็นจังหวะ
ความเข้มเสียง คือ พลังงานเสียงที่ตกตั้งฉากบนหนึ่ง หน่วยเวลา
ระดับความเข้มเสียงจะบอกความดัง ค่อยของเสียงที่ ได้ยิน
เครื่องดนตรีแต่ละชนิดที่ใช้ตัวโน้ตเดียวกัน จะให้ รูปคลื่นที่แตกต่างกันเรียกว่ามีคุณภาพเสียงต่างกัน
|
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๓ อภิปรายผลการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ มลพิษทางเสียที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ และการ เสนอวิธีป้องกัน
|
มลพิษทางเสียงมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ถ้าฟังเสียงที่ มีระดับความเข้มเสียงสูงกว่ามาตรฐานเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการได้ยินและสภาพจิตใจได้ การป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงหรือใช้เครื่องครอบหูหรือ ลดการสั่นของแหล่งกาเนิดเสียง เช่นเครื่องจักร
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๔ อธิบายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสเปกตรัม คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและนาเสนอผลการสืบค้นข้อมูล เกี่ยวกับประโยชน์ และการป้องกันอันตรายจากคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า
|
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าประกอบด้วยสนามแม่เหล็กและ สนามไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาสเปกตรัมคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าช่วงความถี่ต่าง ๆ มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่ง สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน เช่น การ รับส่งวิทยุ โทรทัศน์ การป้องกันอันตรายจากคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า เช่น ไม่อยู่ใกล้เตาไมโครเวฟขณะเตา ทางาน
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๕ อธิบายปฏิกิริยานิวเคลียร์ ฟิชชัน ฟิวชัน และความสัมพันธ์ระหว่างมวลกับพลังงาน
|
ปฏิกิริยานิวเคลียร์เป็นปฏิกิริยาที่ทาให้นิวเคลียสเกิด การเปลี่ยนแปลง ปฏิกิริยาที่นิวเคลียสของธาตุที่มีเลขมวลมากแตกตัว เรียกว่า ฟิชชัน ปฏิกิริยาที่เกิดจากการหลอมรวมนิวเคลียสของธาตุที่มีเลขมวลน้อย เรียกว่า ฟิวชัน ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงานเป็นไปตามสมการ E = mc2
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๖ สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์และผลต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม
|
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ทาให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
|
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้
| ||
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๗ อภิปรายผลการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และนาไปใช้ประโยชน์
|
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนประเภทหนึ่ง ซึ่งได้พลังงานความร้อนจากพลังงานนิวเคลียร์
| ||
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๘ อธิบายชนิดและสมบัติของรังสีจากธาตุกัมมันตรังสี
|
รังสีจากธาตุกัมมันตรังสีมี ๓ ชนิด คือ แอลฟา บีตา และแกมมา ซึ่งมีอำนาจทะลุผ่านต่างกัน
| ||
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๙ อธิบายการเกิดกัมมันตภาพรังสีและบอกวิธีการตรวจตรวจสอบรังสีในสิ่งแวดล้อม การใช้ประโยชน์ ผลกระทบต่อสิ่งชีวิตและสิ่งแวดล้อม
|
กัมมันตภาพรังสีเกิดจากการสลายของไอโซโทปของธาตุที่ไม่เสถียร สามารถตรวจได้โดยเครื่องวัดรังสี ในธรรมชาติ
รังสีมีประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรม การเกษตร การแพทย์ โบราณคดี รังสีในระดับสูงมีอันตราย
| ||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑ ตั้งคาถามที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์หรือความสนใจหรือจากประเด็นที่เกิดขึ้นในขณะนั้นที่สามารถทาการสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่างครอบคลุมและชื่อถือได้
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๒ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบหรือสร้างแบบจาลองหรือสร้างแบบเพื่อนาไปสู่การสำรวจตรวจสอบ
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๓ ค้นคว้ารวบรวมข้อมูลที่ต้องพิจารณาปัจจัยหรือตัวแปรสำคัญปัจจัยที่มีผลต่อปัจจัยอื่นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้และจานวนครั้งของการสำรวจตรวจสอบเพื่อให้ได้ผลที่มีความเชื่อมั่นอย่างเพียงพอ
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๔ เลือกวัสดุ เทคนิควิธี อุปกรณ์ที่ใช้ในการสังเกต การวัด การสำรวจ ตรวจสอบอย่าง ถูกต้องทั้งทางกว้างและลึกในเชิงปริมาณและคุณภาพ
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๕ รวบรวมข้อมูลและบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง ครอบคลุมทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยตรวจสอบความ เป็นไปได้ ความเหมาะสมหรือความผิดพลาดของข้อมูล
| |||
ตัวชี้วัด
|
สาระการเรียนรู้
| ||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๖ จัดกระทาข้อมูลโดยคำนึงถึงการรายงานผลเชิงตัวเลขที่มีระดับความถูกต้องและนาเสนอข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๗ วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมายข้อมูลและประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปหรือสาระสำคัญเพื่อตรวจสอบกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๘ พิจารณาความน่าเชื่อถือของวิธีการและผลการสำรวจตรวจสอบโดยใช้หลักของความคลาดเคลื่อนของการวัดและการสังเกตเสนอแนะการปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๙ นาผลของการสำรวจตรวจสอบที่ได้ทั้งวิธีการและองค์ความรู้ที่ได้ไปสร้างคาถามใหม่ นาไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ใหม่และในชีวิตจริง
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑๐ ตระหนักถึงความสำคัญในการที่จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบการอธิบาย การลงความเห็น และการสรุปผลการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่นาเสนอต่อสาธารณชนด้วยความถูกต้อง
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑๑ บันทึกและอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบอย่างมีเหตุผลใช้พยานหลักฐานอ้างอิงหรือค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อหาหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้และยอมรับว่าความรู้เดิมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อมีข้อมูลและประจักษ์พยานใหม่เพิ่มเติมหรือโต้แย้งจากเดิม ซึ่งท้าทายให้มีการตรวจสอบอย่างระมัดระวังอันจะนามาสู่การยอมรับเป็นความรู้ใหม่
| |||
ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑๒ จัดแสดงผลงาน เขียนรายงานและ/หรืออธิบายเกี่ยวกับแนวคิด กระบวนการและผลของโครงงานหรือชิ้นงานให้ผู้อื่นเข้าใจ
| |||
หน่วย
ที่
|
ชื่อหน่วยการเรียนรู้
|
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
|
เวลา(ชั่วโมง)
|
น้ำหนักคะแนน
(๑๐๐)
|
๑
|
การเคลื่อนที่
๑.๑ การเคลื่อนที่แนวตรง
๑.๑.๑ อัตราเร็วและความเร็ว
๑.๑.๒ความเร่ง
๑.๒ การเคลื่อนที่แบบโพรเจคไทล์
๑.๓ การเคลื่อนที่แบบวงกลม
๑.๔ การเคลื่อนที่แบบฮาร์นิคอย่างง่าย
|
ว ๔.๒ ม.๔-๖/๑-๓,
ว ๘.๑ม.๔-๖/๑-๑๒
|
๒๐
|
๑๕
|
๒
|
สนามของแรง
๒.๑สนามแม่เหล็ก
๒.๑.๑ ผลของสนามแม่เหล็กต่อการเคลื่อนที่ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า
๒.๑.๒ ผลของสนามแม่เหล็กต่อการเคลื่อนที่ของตัวนาที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน
๒.๑.๓ สนามแม่เหล็กโลก
๒.๒ สนามไฟฟ้า
๒.๓ สนามโน้มถ่วง
๒.๓.๑ การเคลื่อนที่ของวัตถุในสนามโน้มถ่วง
|
ว ๔.๑ ม.๔-๖/๑-๔
ว ๘.๑ม.๔-๖/๑-๑๒
|
๒๐
|
๑๕
|
๓
|
คลื่น
๓.๑ คลื่นกล
๓.๒ องค์ประกอบของคลื่น
๓.๓ สมบัติของคลื่น
๓.๔ เสียงและการได้ยิน
๓.๔.๑ เสียงเกิดได้อย่างไร
๓.๔.๒ ธรรมชาติของเสียง
๓.๕ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๑-๔
ว ๘.๑ม.๔-๖/๑-๑๒
|
๒๐
|
๑๕
|
หน่วยที่
|
ชื่อหน่วยการเรียนรู้
|
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
|
เวลา(ชั่วโมง)
|
น้าหนักคะแนน
(๑๐๐)
|
๔
|
กัมมันตภาพรังสีและพลังงานนิวเคลียร์
๔.๑ กัมมันตภาพรังสี
๔.๒ รังสีกับมนุษย์
๔.๓ พลังงานนิวเคลียร์
|
ว ๕.๑ ม.๔-๖/๕-๙
ว ๘.๑ม.๔-๖/๑-๑๒
|
๒๐
|
๑๕
|
งานที่มอบหมาย/การนาความรู้ไปใช้
|
-
|
๑๐
| ||
คุณลักษณะอันพึงประสงค์/จิตพิสัย
|
-
|
๑๐
| ||
สอบปลายภาคเรียน
|
-
|
๒๐
| ||
รวมทั้งสิ้นตลอดภาคเรียน
|
๘๐
|
๑๐๐
|
คำอธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ สาระการเรียนรู้ พื้นฐาน
รหัส ว ๓๑๑๐๑ วิชา ฟิสิกส์พื้นฐาน ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔
ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๘๐ ชั่วโมง จานวน ๒.๗ หน่วยกิต
ศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างระยะทาง การกระจัด เวลา อัตราเร็ว อัตราเร่งการเคลื่อนที่แนวตรง โพรเจคไทล์ การเคลื่อนที่แบบวงกลมและฮาร์โมนิคอย่างง่าย การเคลื่อนที่ของวัตถุในสนามโน้มถ่วง การเคลื่อนที่ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าในสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคในนิวเคลียส คลื่นกล เสียงและสมบัติของเสียง เสียงและการได้ยิน สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ปฏิกิริยานิวเคลียร์ กัมมันตรังสี ไอโซโทป และการใช้ประโยชน์ในการสร้างสรรค์รวมถึงผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล อภิปรายและการทดลอง เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้ใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม
ตัวชี้วัด
ว ๔.๑ม.๔-๖/๑-๔ , ว ๔.๒ม.๔-๖/๑-๓ , ว ๕.๑ม.๔-๖/๑-๙ , ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑-๑๒
สาระการเรียนรู้พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๘๐ ชั่วโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น